Daily Devotion

January 21, 2016
ข้อคิดจากพระธรรม สุภาษิต 13:18-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน (THSV)ซึ่งเป็นข้อความที่ได้รับการเน้นด้วยสีเขียวจากพระคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน วิถีจัดการด้านการเงิน ซึ่งเปิดตัวเมื่อ 28 มีนาคม 2015
ความยากจนและความอัปยศมาถึงคนที่เพิกเฉยต่อคำสั่งสอน
แต่คนที่สนใจคำตักเตือนจะได้รับเกียรติ
ความปรารถนาที่กลายเป็นจริงนั้นหวานชื่นแก่วิญญาณ
แต่การหันจากความชั่วร้ายเป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชังสำหรับคนโง่
คนที่เดินกับคนมีปัญญาจะกลายเป็นคนมีปัญญา
แต่เพื่อนของคนโง่จะถูกทำลาย
สิ่งเลวร้ายตามติดคนบาป
แต่สิ่งดีเป็นรางวัลของคนชอบธรรม
คนดีย่อมทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลาน
แต่ทรัพย์สมบัติของคนบาปนั้นถูกเก็บไว้ให้คนชอบธรรม
แม้อาหารมากมายอยู่ในที่ดินของคนยากจน
แต่มันถูกกวาดไปโดยความอยุติธรรม
สาเหตุของความยากจนนั้นมีหลายประการ มี 2 ประการที่ถูกกล่าวถึงในพระธรรมตอนนี้คือ การเพิกเฉยต่อคำสั่งสอน และความอยุติธรรม และการสั่งสอนในที่นี้ไม่ได้เกิดจากการเข้าชั้นเรียนเสมอไป แต่เป็นการรู้จักเลือกเพื่อนหรือคนที่เราจะใช้เวลาด้วย หากเราอยู่ใกล้ชิดกับคนมีปัญญา เราก็จะได้รับการถ่ายทอดสิ่งที่ดี และจะได้รับสิ่งที่ดี และคนที่ดีนั้น จะเป็นคนที่คิดถึงคนอื่น เขาจะทิ้งมรดกของเขาไว้ให้ลูกหลานของเขาได้ใช้ต่อไป อย่างไรก็ตามคนที่ไม่รับคำสอนหรือคำตักเตือนนั้นเป็นคนโง่ และไม่ยอมกลับใจ ในที่สุดก็จะถูกทำลาย สำหรับคนยากจนบางคนนั้นมีชีวิตที่น่าเห็นใจ คือ ถึงแม้เขาจะมีที่ทำกินเป็นของตนเอง แต่เขาก็ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้สักที ทั้งนี้เป็นเพราะความอยุติธรรมในสังคม
คนกลุ่มหนึ่งพยายามจะประสบความสำเร็จด้วยการศึกษา และคิดว่าเรียนจบแล้ว ก็จะใช้ปริญญาไปทำเงิน แต่ในชีวิตปกตินั้น ไม่ยอมรับคำสั่งสอนจากคนอื่น ไม่ว่าจากพ่อแม่ ครูอาจารย์ หรือ แม้แต่เจ้านายและเพื่อนร่วมงาน ความรู้ที่เรียนมานั้นมีวันล้าสมัย ขณะที่เราทำงานอยู่นั้นมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นเสมอ เราควรจะเปิดใจรับคำสั่งสอนเพื่อพัฒนาทักษะของเราอยู่เสมอ และในด้านศีลธรรมนั้น เมื่อมีคนเตือนให้เราเลิกกระทำความชั่ว เราควรจะรับฟัง และการเลือกคบเพื่อนที่แนะนำเราให้ไปในทางที่ถูกต้องนั้นสำคัญมาก หากเราคบเพื่อนเที่ยว เพื่อนกินอย่างเดียว เราก็จะไม่มีอนาคต เมื่อเราได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดกับคนที่ดี ชีวิตของเราก็จะเจริญก้าวหน้า คนที่ดีนั้นคือคนที่ไม่เห็นแก่ตัว และคิดถึงคนอื่น คิดถึงครอบครัว เขาจะทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลานของเขา นอกจากนี้คนดีคือคนที่ให้ความยุติธรรม ไม่เอาเปรียบคนอื่น โดยเฉพาะไม่เอาเปรียบคนที่มีฐานะยากจน
คนกลุ่มหนึ่งพยายามจะประสบความสำเร็จด้วยการศึกษา และคิดว่าเรียนจบแล้ว ก็จะใช้ปริญญาไปทำเงิน แต่ในชีวิตปกตินั้น ไม่ยอมรับคำสั่งสอนจากคนอื่น ไม่ว่าจากพ่อแม่ ครูอาจารย์ หรือ แม้แต่เจ้านายและเพื่อนร่วมงาน ความรู้ที่เรียนมานั้นมีวันล้าสมัย ขณะที่เราทำงานอยู่นั้นมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นเสมอ เราควรจะเปิดใจรับคำสั่งสอนเพื่อพัฒนาทักษะของเราอยู่เสมอ และในด้านศีลธรรมนั้น เมื่อมีคนเตือนให้เราเลิกกระทำความชั่ว เราควรจะรับฟัง และการเลือกคบเพื่อนที่แนะนำเราให้ไปในทางที่ถูกต้องนั้นสำคัญมาก หากเราคบเพื่อนเที่ยว เพื่อนกินอย่างเดียว เราก็จะไม่มีอนาคต เมื่อเราได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดกับคนที่ดี ชีวิตของเราก็จะเจริญก้าวหน้า คนที่ดีนั้นคือคนที่ไม่เห็นแก่ตัว และคิดถึงคนอื่น คิดถึงครอบครัว เขาจะทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลานของเขา นอกจากนี้คนดีคือคนที่ให้ความยุติธรรม ไม่เอาเปรียบคนอื่น โดยเฉพาะไม่เอาเปรียบคนที่มีฐานะยากจน
