Daily Devotion

January 20, 2016
ข้อคิดจากพระธรรม สุภาษิต 13:4-8 พระคริสตธรรมคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน (THSV) ซึ่งเป็นข้อความที่ได้รับการเน้นด้วยสีเขียวจากพระคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน วิถีจัดการด้านการเงิน ซึ่งเปิดตัวเมื่อ 28 มีนาคม 2015
ความต้องการของคนเกียจคร้านก็มีอยู่
แต่จะไม่ได้อะไรเลย
ส่วนความต้องการของคนขยันจะได้รับ
การตอบสนองอย่างจุใจ
คนชอบธรรมเกลียดการพูดเท็จ
แต่คนอธรรมประพฤติเสื่อมเสียและน่ารังเกียจ
ความชอบธรรมคุ้มครองผู้ที่ทางของเขาไร้ตำหนิ
แต่ความอธรรมจะทำลายคนบาป
มีคนที่ทำทีว่ามั่งคั่ง แต่ไม่มีอะไรเลย
และมีคนที่ทำทีว่ายากจน แต่มีทรัพย์สมบัติมากมาย
ค่าไถ่ชีวิตของคนคือความมั่งคั่งของเขา
แต่คนยากจนจะไม่ได้ยินคำข่มขู่เอาค่าไถ่
คนขี้เกียจจะไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ในขณะที่คนขยันจะได้รับสิ่งที่ต้องการ คนอธรรมจะทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องและจะเป็นคนทำอันตรายต่อคนบาป ในขณะที่คนชอบธรรมจะไม่พูดโกหกและจะปกป้องคนที่ไร้ตำหนิ คนบางคนมีเงินแต่ทำตัวยากจน ส่วนบางคนไม่มีเงินแต่ทำตัวร่ำรวย หลายคนอาจจะบ่นว่าไม่มีเงิน แต่ก็จะอยู่อย่างปลอดภัย ในขณะที่คนมีเงินก็จะถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่
หลายคนอาจจะบ่นว่าตัวเองไม่มีเงินใช้ แต่ก็ไม่ยอมทำมาหากิน เมื่อไม่ทำมาหากิน ก็จะไม่มีเงินที่จะซื้อสิ่งที่ต้องการ และคนที่ตั้งใจทำงานจะได้รับผลตอบแทนที่ดี คนเราเมื่อเจอปัญหาไม่ควรพูดเท็จ แต่ควรพูดความจริงและให้การปกป้องคนอื่นที่อ่อนแอ หากเรามีทรัพย์สินเงินทอง เราไม่จำเป็นต้องโอ้อวดความรำ่รวยด้วยการใส่เครื่องประดับราคาแพง หรือ ขับรถราคาแพง เพราะการแสดงตัวรำ่รวยนั้น จะนำภัยมาถึงตัวได้ ถึงแม้ทรัพย์สินเงินทองของเราจะมีมากพอที่จะช่วยชีวิตของเราได้ แต่บางครั้งมันก็ไม่ทันเวลา
หลายคนอาจจะบ่นว่าตัวเองไม่มีเงินใช้ แต่ก็ไม่ยอมทำมาหากิน เมื่อไม่ทำมาหากิน ก็จะไม่มีเงินที่จะซื้อสิ่งที่ต้องการ และคนที่ตั้งใจทำงานจะได้รับผลตอบแทนที่ดี คนเราเมื่อเจอปัญหาไม่ควรพูดเท็จ แต่ควรพูดความจริงและให้การปกป้องคนอื่นที่อ่อนแอ หากเรามีทรัพย์สินเงินทอง เราไม่จำเป็นต้องโอ้อวดความรำ่รวยด้วยการใส่เครื่องประดับราคาแพง หรือ ขับรถราคาแพง เพราะการแสดงตัวรำ่รวยนั้น จะนำภัยมาถึงตัวได้ ถึงแม้ทรัพย์สินเงินทองของเราจะมีมากพอที่จะช่วยชีวิตของเราได้ แต่บางครั้งมันก็ไม่ทันเวลา
