ดู 1 พงศ์กษัตริย์ 8:10-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน (THSV) ¹⁰และต่อมาเมื่อพวกปุโรหิตออกมาจากวิสุทธิสถาน เมฆก็เต็มพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ¹¹จนพวกปุโรหิตไม่อาจยืนปรนนิบัติอยู่ได้เพราะเมฆนั้น เพราะพระสิริของพระยาห์เวห์เต็มพระนิเวศของพระยาห์เวห์

   ¹²แล้วซาโลมอนตรัสว่า

    “พระยาห์เวห์ตรัสว่า พระองค์จะประทับในความมืดทึบ

    ¹³แท้จริง ข้าพระองค์ได้สร้างพระนิเวศที่โอ่อ่าตระการตาสำหรับพระองค์

    เป็นสถานที่เพื่อพระองค์จะสถิตอยู่เป็นนิตย์”

ชวนคิด ท่านคิดว่าความมืดทึบจะเป็นอุปสรรคทำให้ท่านไม่รู้ว่าพระเจ้าทรงอยู่กับท่านหรือไม่ อธิบาย หลังจากซาโลมอนได้สร้างพระวิหารเสร็จตามที่พระเจ้าสัญญาไว้กับดาวิดว่า จะให้โอรสของพระองค์เป็นผู้สร้าง ซาโลมอนได้มีการทำพืธีมอบถวายพระวิหาร และพระเจ้าได้ตอบสนองด้วยการที่ให้พระสิริของพระองค์ที่เป็นเมฆปกคลุมเต็มพระวิหารของพระองค์ ซึ่งเป็นการยืนยันว่าพระองค์ทรงพอพระทัยที่จะประทับอยู่กับชนชาติอิสราเอล กษัตริย์ซาโลมอนก็มั่นใจเช่นนั้น เพราะพระยาห์เวห์ได้ตรัสกับซาโลมอนว่าพระองค์จะประทับในความมืดทึบ การมีเมฆทึบมาปกคลุมเป็นการแสดงให้เห็นว่าพระองค์ได้เสด็จมาอยู่ที่พระวิหารนั้น บางคนคิดว่าพระสิริของพระเจ้าต้องเป็นแสงสว่างเท่านั้น แต่ในตอนนี้พระองค์เสด็จมาเป็นเมฆทึบ หากเราเดินทางไปประเทศอิสราเอล เราจะสังเกตเห็นว่าบนท้องฟ้า หาเมฆไม่ค่อยเจอ การมีเมฆมากจนหนาทึบจึงเป็นการอัศจรรย์อย่างหนึ่ง ประยุกต์ใช้ ในชีวิตของเรา เมื่อเรามีปัญหา เราอยากให้พระเจ้ามาปรากฏเป็นแสงสว่าง แต่บางครั้งพระองค์ก็เลือกที่จะมาปรากฏเป็นความมืดทึบ และพระองค์พร้อมที่จะอยู่กับเราในความมืดทึบด้วย ผู้เขียน เสรี หล่อกัณภัย