Daily Devotion

August 23, 2015
ดู เนหะมีย์ 5:1-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน (THSV) ซึ่งเป็นข้อความที่ได้รับการเน้นด้วยสีเขียวจากพระคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน วิถีจัดการด้านการเงิน ซึ่งเปิดตัวเมื่อ 28 มีนาคม 2015
มีเสียงร้องของประชาชนและของภรรยาของเขาอย่างเกรียวกราว กล่าวโทษพี่น้องพวกยิวเพราะมีคนที่กล่าวว่า “เรามากคนด้วยกัน ทั้งลูกชายและลูกสาวของเรา ขอให้เราได้ข้าวเพื่อเราจะรับประทานและมีชีวิตอยู่ได้” และมีคนกล่าวว่า “เราต้องจำนำไร่นาของเรา สวนองุ่นของเรา และบ้านเรือนของเรา เพื่อจะได้ข้าว เพราะเหตุการกันดารอาหาร” และคนอื่นๆ กล่าวว่า “เราได้ขอยืมเงินมาเป็นค่าภาษีถวายกษัตริย์ โดยจำนำนาและสวนองุ่นของเรา เผ่าพันธุ์ของเราเป็นเหมือนเผ่าพันธุ์ของพี่น้องของเรา ลูกของเราก็เหมือนลูกของเขา แต่เราก็ยังให้ลูกชายและลูกสาวของเราเป็นทาส ลูกสาวของเราบางคนเป็นทาสแล้ว และเราช่วยเขาไม่ได้ เพราะคนอื่นยึดนาและสวนองุ่นของเรา” เมื่อข้าพเจ้าได้ยินเสียงร้องของเขาและถ้อยคำของเขา ข้าพเจ้าก็โกรธมาก ข้าพเจ้าตรึกตรองแล้วก็นำความนี้ไปต่อว่าพวกขุนนางและเจ้าหน้าที่ ข้าพเจ้าพูดกับพวกเขาว่า “พวกท่านต่างคนต่างให้ยืมเงินโดยเรียกของประกันจากพี่น้องของตน” และข้าพเจ้าก็เรียกชุมนุมชนใหญ่มาสู้กับเขา และข้าพเจ้ากล่าวแก่เขาว่า “เราได้ไถ่พวกยิวพี่น้องของเราผู้ถูกขายไปต่างประเทศคืนมา ตามแต่เราจะสามารถทำได้ แต่พวกท่านกลับขายพี่น้องของท่าน เพื่อให้เราต้องซื้อพวกเขาคืนมา” คนทั้งหลายก็นิ่งอยู่ พูดไม่ออกข้าพเจ้าจึงว่า “สิ่งที่พวกท่านทำอยู่นั้นไม่ดี ท่านควรจะดำเนินในความยำเกรงพระเจ้าของเรา เพื่อป้องกันการเยาะเย้ยของประชาชาติซึ่งเป็นศัตรูของเราไม่ใช่หรือ? นอกจากนั้น ข้าพเจ้ากับพี่น้องของข้าพเจ้าและคนใช้ของข้าพเจ้ายังให้เขายืมเงิน และยืมข้าวด้วย ขอให้เราเลิกการให้ยืมโดยเรียกของประกันนั้นเสียเถิดในวันนี้ ขอจงคืนนา สวนองุ่น สวนมะกอก และเรือนของเขา และดอกเบี้ยของเงิน ข้าว เหล้าองุ่น และน้ำมัน ซึ่งท่านได้รีดเอาจากพวกเขาเสีย” แล้วพวกเขาพูดว่า “เราจะคืนสิ่งเหล่านี้ และจะไม่เรียกร้องสิ่งใดๆ จากเขาทั้งหลาย เราจะทำตามที่ท่านพูด” และข้าพเจ้าก็เรียกบรรดาปุโรหิตมา และให้ปุโรหิตเอาคำสาบานจากเขาทั้งหลายว่า เขาจะทำตามที่เขาสัญญาแล้วนั้น ข้าพเจ้าก็สลัดชายเสื้อที่พกของไว้ของข้าพเจ้าด้วย และพูดว่า “ดังนั้นแหละ ถ้าคนใดไม่ได้ทำตามสัญญานี้ ขอพระเจ้าทรงสลัดเขาเสียจากเรือนของเขาและจากทรัพย์สมบัติของเขา ให้เขาถูกสลัดออกแล้วไปตัวเปล่า” และชุมนุมชนทั้งปวงกล่าวว่า “อาเมน” และสรรเสริญพระยาห์เวห์ แล้วประชาชนก็ทำตามที่เขาสัญญาไว้
หลังจากที่เนหะมีย์ได้ยินเสียงบ่นจากประชาชนว่า พวกเขาต้องถูกยึดที่ทำมาหากิน และลูกของพวกเขาต้องตกเป็นทาส และยังขาดแคลนอาหาร ทั้งๆ ที่พวกเขาต่างก็มาช่วยกันสร้างกำแพง และต่างก็เป็นคนยิวเหมือนกัน เนหะมีย์ก็โกรธมาก และได้ต่อว่าพวกขุนนางและเจ้าหน้าที่ที่เรียกของประกัน และคิดดอกเบี้ยจากคนยิวที่ยากจนและขัดสน ในที่สุดพวกเขายอมรับว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นไม่ถูกต้อง เนหะมีย์จึงได้ให้พวกเขาสาบานต่อหน้าปุโรหิตว่า พวกเขาจะคืนข้าวของที่ยึดมาเป็นประกันให้กับลูกหนี้ และจะคืนดอกเบี้ยด้วย และเนหะมีย์ได้ทำสัญญลักษณ์ต่อหน้าพวกเขาว่า หากพวกเขาไม่ทำตามสัญญาก็ขอให้พระเจ้าสลัดทรัพย์สินออกไปจากตัวพวกเขา
ในสังคมปัจจุบัน คนจนจะซื้อของแพงกว่าคนธรรมดาหรือคนรวย คนจนก็ถูกขูดรีดจากเจ้าหนี้ด้วยดอกเบี้ยที่แพงมาก และคนจนมักจะไม่โกงและไม่หนี คนรวยมักจะซื้อสินค้าได้ราคาถูก และมักจะเสียดอกเบี้ยน้อย คนรวยจึงมักได้เปรียบคนจนอยู่หลายด้าน แต่ในที่ประเทศชาติต้องเจอกับวิกฤตนั้น เราต้องช่วยเหลือกัน ไม่ใช่ฉวยโอกาส ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ที่เกิดระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์นั้น คนไทยหลายคนได้แสดงนำ้ใจอย่างน่ายกย่อง เช่น มอเตอร์ไซด์รับจ้าง ให้บริการฟรีแก่ญาติของผู้ที่บาดเจ็บ ไม่ฉวยโอกาสที่จะได้เงินจากคนที่เดือดร้อน แพทย์และพยาบาลต่างไปช่วยดูแลคนเจ็บทั้งๆ ที่ไม่ได้เข้าเวร หลักการในพระคัมภีร์คือ เมื่อเห็นคนเดือดร้อน เราต้องให้ด้วยใจกว้างขวาง ไม่ใช่ฉวยโอกาสเอาเปรียบคนที่เดือดร้อน