Daily Devotion

May 3, 2015
ดู เฉลยธรรมบัญญัติ 15:1-11 พระคริสตธรรมคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน (THSV) ซึ่งเป็นข้อความที่ได้รับการเน้นด้วยสีเขียวจากพระคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน วิถีจัดการด้านการเงิน ซึ่งเปิดตัวเมื่อ 28 มีนาคม 2015
“เมื่อครบทุกเจ็ดปีท่านจงมีการปลดปล่อยให้ทำการปลดปล่อยดังนี้ เจ้าหนี้ทุกคนจงยกหนี้ให้เพื่อนบ้านของตน ห้ามบีบบังคับเอาคืนจากเพื่อนบ้านหรือพี่น้องของตน เพราะว่าได้ประกาศการปลดปล่อยของพระยาห์เวห์แล้วท่านจะทวงจากคนต่างชาติคืนได้ แต่ถ้าท่านมีของสิ่งใดซึ่งอยู่กับพี่น้อง ก็ให้หลุดไปเพื่อจะไม่มีคนยากจ...นท่ามกลางท่าน (เพราะพระยาห์เวห์จะทรงอวยพรท่านอย่างมากมายในแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านเป็นมรดกให้ยึดครองนั้น) ถ้าท่านเพียงแต่ตั้งใจจะเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ระวังที่จะทำตามพระบัญญัติทั้งสิ้นซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรท่านดังที่พระองค์ทรงสัญญาต่อท่านนั้น ท่านจะให้หลายประชาชาติยืม แต่ท่านจะไม่ต้องขอยืมเลย ท่านจะปกครองเหนือชนชาติมากมาย แต่พวกเขาจะไม่ปกครองเหนือท่าน
“ถ้าท่ามกลางท่านมีคนจนคนหนึ่งซึ่งเป็นพี่น้องของท่านอยู่ในเมืองใดๆ ในแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่าน ท่านอย่ามีใจแข็ง อย่าหดมือของท่านไว้เสียจากพี่น้องของท่านที่ยากจนนั้น แต่ท่านจงยื่นมือของท่านให้เขา และให้เขายืมจนพอแก่ความต้องการของเขาที่เขาขาดอยู่นั้น จงระวังให้ดีเกรงว่าจะมีการคิดร้ายในใจของท่านว่า ‘ปีที่เจ็ด ปีที่จะต้องปลดปล่อยมาถึงแล้ว’ และท่านก็มองพี่น้องยากจนของท่านในแง่ร้าย ท่านจึงไม่ยอมให้อะไรเขาเลย และเขาจะฟ้องร้องท่านต่อพระยาห์เวห์ บาปก็จะตกแก่ท่านท่าน จงให้เขาด้วยเต็มใจ และเมื่อให้เขาแล้วอย่ามีจิตคิดเสียดาย ในกรณีนี้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรแก่ท่านในกิจการทั้งสิ้นของท่าน ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด เพราะว่าคนจนจะไม่หมดไปจากแผ่นดิน เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงบัญชาท่านว่า ท่านต้องยื่นมือให้อย่างใจกว้างต่อพี่น้องของท่าน คือต่อคนขัดสนคนยากจน ซึ่งอยู่ในแผ่นดินของท่าน
พระธรรมตอนนี้ได้พูดถึงว่าคนอิสราเอลจะดูแลคนอิสราเอลอย่างไร พระเจ้าได้สอนคนอิสราเอลผ่านทางโมเสสว่าให้มีการกำหนดรอบปีปลดปล่อยไว้ทุกเจ็ดปี พอถึงปีที่เจ็ดคนที่เคยเป็นหนี้ก็จะได้รับการปลดหนี้ พระเจ้าได้แนะนำว่า การให้ความช่วยเหลือนั้นจะต้องให้ด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่ให้ความช่วยเหลือแบบแข็งกระด้าง หรือเมยเชยต่อความต้องการของคนอื่น อย่าคิดเสียดายว่าเมื่อให้ยืมแล้ว เขาจะไม่สามารถให้คืนเรา ถ้าถึงเวลาเขาไม่สามารถให้คืนเรา พระเจ้าจะเป็นผู้ให้คืนเอง คนยากจนยังคงมีอยู่ต่อไปเรื่อยๆ เราก็ต้องให้ความช่วยเหลือเรื่อยๆ
ในโลกของเรานั้นมีคนยากจนมากกว่าคนรวยมาก และคนที่มีความต้องการสิ่งจำเป็นในชีวิตก็ยังมีอีกมาก ปัจจุบันมีคนจำนวนมากที่มีหนี้สินจำนวนมาก คนเหล่านี้มีอยู่ในคริสตจักรทุกแห่ง และพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ คริสตจักรทุกแห่งมีหลักเกณฑ์และกฎกติกาเกี่ยวกับความช่วยเหลืออยู่ อย่างไรก็ดีพระธรรมตอนนี้ได้สอนถึงเรื่องการยกหนี้ให้กับพี่น้องในเวลาที่กำหนดไว้ สอนให้ยืมด้วยใจกว้างขวาง ในความจำเป็น เราต้องให้อะไรคนที่ขัดสนบ้าง ไม่ใช่ไม่ให้อะไรเลย หลักคิดของพระธรรมข้อนี้ก็คือ ถ้าเรามีกำลัง การเป็นคนให้ยืม ก็ดีกว่าเป็นคนขอยืม เราไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะได้คืนหรือไม่ พระเจ้าทรงดูแลและอวยพรเราเมื่อเราทำตามพระประสงค์ของพระองค์
