Daily Devotion

April 15, 2016
ข้อคิดจากพระธรรม สุภาษิต 24:30-34 พระคริสตธรรมคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน (THSV) ซึ่งเป็นข้อความที่ได้รับการเน้นด้วยสีเขียวจากพระคัมภีร์ฉบับมาตรฐาน วิถีจัดการด้านการเงิน ซึ่งเปิดตัวเมื่อ 28 มีนาคม 2015
ข้าผ่านไปที่ไร่นาของคนเกียจคร้าน
ข้างสวนองุ่นของคนไม่มีสามัญสำนึก
และนี่แน่ะ มีหนามงอกเต็มไปหมด
หน้าดินก็ปกคลุมด้วยต้นเหงือกหนาม
และกำแพงหินของมันก็พังลง
เมื่อข้ามองดูและได้พิเคราะห์
ข้าเห็นและได้รับคติสอนใจ
“หลับนิด เคลิ้มหน่อย
กอดมือพักนิดหน่อย”
แล้วความจนจะมาหาเจ้าอย่างขโมย
และความขัดสนอย่างคนถืออาวุธ
ความขี้เกียจเป็นศัตรูที่ร้ายมาก เพราะหากเราคิดว่าเรามีกำแพงที่แข็งแรงอยู่ที่บ้านของเรา เราก็จะปลอดภัยนั้นเป็นความคิดที่ผิด เพราะว่ากำแพงที่ปล่อยให้หญ้าขึ้นรกหรือต้นไม้ขึ้นรก ก็จะค่อยๆ พังทลายเรา โดยไม่ต้องมีใครมาทำให้มันพัง หากเราปลูกพืชที่มีราคาแพงไว้ และไม่จำกัดวัชพืช ไม่นานวัชพืชเหล่านั้นก็จะเจริญแซงหน้าต้นไม้ที่ให้ผลราคาแพงของเรา หากเราปล่อยปะละเลยสวนหรืองานของเรา ไม่นานความจนก็มาถึงเรา
การที่เราจะโอนทรัพย์สินจากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่งไม่ใช่สิ่งที่ง่าย เพราะคนที่ได้รับมรดกมาอย่างง่ายๆ และไม่ได้ทำงานหนัก มักจะไม่เห็นคุณค่าของการดูแลรักษาทรัพย์สินที่ได้มาจากบรรพบุรุษ หลายคนได้มรดกที่มีค่ามา แต่ไม่รู้จักดูแลรักษา สิ่งของเหล่านั้นก็จะสูญเสียไป ทั้งๆ ที่ไม่มีใครมาปล้น ไม่มีใครมาแย่งชิง ทรัพย์สินใดๆ ก็ตามหากขาดการดูแลและเอาใจใส่ มันก็จะพังทลายไปโดยไม่มีใครต้องออกแรงทำอะไรเลย ดังนั้นหากเราได้รับมรดกมา เราควรเอาใจใส่ดูแล ไม่เช่นนั้นมูลค่าของมันก็จะหายไปในเวลาอันรวดเร็ว อย่าขี้เกียจ และผลัดวันประกันพรุ่งในการจัดการ